Triumph ปล่อยของต่อยอดกับเครื่องยนต์ 660 จาก Trident ออกมาเป็นรถในแนว Touring ที่ยังคงความโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ กับแรงบิดถึง 64 Nm และ แรงม้า 81 hp ซึ่งส่งแรงบิดออกมาตั้งแต่รอบต่ำ มีให้เรียกใช้ในทุกย่านรอบของการเดินทาง และใช้งาน
ผสานกับช่วงล่างที่คำนวน และออกแบบพัฒนาอย่างละเอียด ด้วยกันสะเทือนหน้าจาก Showa แบบ USD ขนาด 41 mm พร้อมระยะยุบที่ 150 mm พร้อมด้วยโช้คหลังเดี่ยวจาก Showa ที่ปรับตั้งได้ preload ผ่าน remote เพื่อให้ตรงกับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขับขี่คนเดียว มีคนซ้อน หรือจะพกพาสัมภาระเพื่อการเดินทางไกลไปด้วยในทุกเส้นทาง
เบรคหน้าจานคู่ขนาด 310 mm จาก Nissin พร้อมด้วยยาง Michelin Road 5 ซีรี่ย์ใหม่ที่ให้การยึดเกาะกับพื้นผิวทั้งทางแห้ง และเปียกได้เป็นอย่างดี
กับอารมณ์การขับขี่ที่เป็น Sport มากขึ้น แต่ยังคงความสบายของท่านั่งเพื่อการเดินทาง ด้วยแฮนด์บาร์ยกสูง ที่ให้การควบคุมรถที่เหนือชั้น ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความสบายทั้งของผู้ขับี่ และผู้โดยสาร และยังเข้าถึงได้ง่ายด้วยความสูงเบาะที่ 835 mm ซึ่งย่ิงทำให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำ และให้เสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีสำหรับทุกการเดินทาง
พร้อมด้วยถังน้ำมันขนาด 17 ลิตรที่เพียงพอกับทุกการเดินทางไกล แสดงผลด้วยหน้าจอสี TFT พร้อมการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่าน My Triumph Connectivity และระบบไฟ LED พร้อมระบบไฟเลี้ยวอัตโนมัติ ตามด้วยโหมดการขับขี่ขั้นสูง 2 โหมด ได้แก่ ฝนตก (Rain) และถนนปกติ (Road) ที่ทำงานปรับการตอบสนองของคันเร่ง ที่ทำงานร่วมกับ Traction Control และ ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (เลือกเปิด-ปิด ได้)
ด้านคุณภาพและการดูแลนั้นต้องบอกว่า มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่ำที่สุดของรถในคลาสเดียวกัน พร้อมด้วยรอบเช็คระยะที่ 16,000 km หรือ 12 เดือน มาพร้อมกับการประกันคุณภาพ 2 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง (ขยายได้ 1-2 ปี)
Comments