ถ้าต้องการรถ Sport สักคัน ใช้งานได้ทั่วไทย (บนทางเรียบนะ) สภาพอากาศแบบไหนก็แล้วแต่ พอมี Track day ก็ลงมาขี่สนุก เสริมทักษะ เก็บรูปสวยๆ ไว้อวดเพื่อน พร้อมโลโก้ใบพัดฟ้า-ขาว แล้วหล่ะก็ BMW S 1000 RR น่าจะเป็นรถที่ตอบสนอง need นี้ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว 

เกือบ 10 ปีแล้วสินะ ที่ผมเคยได้มีโอกาสขับขี่ Triumph Speed Triple 1050 ท่องเที่ยวอยู่ระยะนึง ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นรถที่ช่างลงตัว แม้ว่าในสมัยนั้นจะไม่มีระบบอะไรเลยก็ตาม แต่ความละเอียด การควบคุมที่เชื่อถือได้ เสถียรภาพของรถในทุกสภาพการขับขี่นั้นนับได้ว่าเหนือชั้นอย่างแท้จริง จนเป็นภาพจำที่นึกถึงขึ้นได้อยู่เรื่อยๆ

ด้วยราคาที่ต่ำกว่าแสน กับความสามารถของตัวรถที่ทำออกมาได้สำหรับการใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัวแบบนี้ “คุ้ม” อีกแล้วกับรถจาก Honda ในพิกัด 150 cc

กับการปรับปรุงขึ้นอีกขั้นของ CBR500R ในปีนี้ที่ต้องบอกว่า ดูแล้วแทบไม่เปลี่ยนอะไร แต่ต้องบอกว่า การขับขี่นั้น ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นเลยทีเดียว และก้าวขึ้นไปใกล้กับคำว่า “จุดเริ่มต้นของการขับขี่ bigbike แบบ sport”

BMW S 1000 RR นับได้ว่าเป็นรถที่ครองใจใครหลายๆคน อย่างมากมาย ด้วยชื่อชั้น และระบบความปลอดภัยที่บรรจุลงมา พร้อมด้วยการปรับตั้งให้ตอบสนองได้ในทุกการขับขี่กับเซนเซอร์มากมาย

Honda CBR600RR เป็นรถคันนึงที่ผมอยากมีโอกาสได้ครอบครองมาตลอดหลังจากที่เคยขับขี่ในรุ่นปี 2012 นั่นแหล่ะครับ จนกระทั่งมาถึงในปี 2021 นี้ ที่ทาง Honda ได้โอกาสเข็นเข้ามายังบ้านเรากับ All New Honda CBR600RR ที่ต้องบอกเลยว่า “ระบบช่วยมาครบ”

“10 ปี” คือช่วงเวลาที่นับจากครั้งสุดท้ายที่ผมได้มีโอกาสขับขี่กับ Honda CBR1000RR รุ่นปี 2008 หรือที่เราเรียกกันว่าโฉมนกแก้ว ช่วงนั้นแหล่ะครับ หลังจากที่จากลากันไป ก็ไม่ได้สัมผัสอีกเลย จนกระทั่งในปี 2020 นี้

จริงๆแล้วต้องบอกว่า Kushitani นั้นเป็นแบรนด์ที่ “เก่าที่สุด”​ ของญี่ปุ่น ด้วยอายุกว่า 70 ปี (เริ่มตั้งแต่ 1947) เพื่อทำชุดหนังสำหรับมอเตอร์ไซค์เป็นเจ้าแรกในญี่ปุ่น

“Panigale V2 คือรถ Sport ที่ลงตัวที่สุดของ Ducati ที่ผมเคยได้ขับขี่มา”

ครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทาง BMW Motorrad Thailand ที่ให้เกียรติกับผมได้เข้าร่วมการขับขี่ใน Level 2 หลังจากที่ได้มีโอกาสได้ขับขี่ใน Level 1 เมื่อ 2 ปีที่แล้วบนสนามบุรีรัมย์ฯ แห่งนี้