หลังจากที่ผมเองพึ่งจะได้ขับขี่ X-ADV 750 มาไม่นานมานี้ ประกอบกับกำลังจะหารถ Scooter อีกสักคันไว้ขี่ใช้งานสบายๆ จนเกือบจะลั่น Forza 350 ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งก็เป็นจังหวะดีที่ได้ข่าวถึงเรื่อง ADV350 มาซะอย่างนั้น … ต้องขอบคุณทางไทยฮอนด้าด้วยนะครับ ที่ให้ผมได้เป็นส่วนนึงในการร่วมทดสอบ Honda ADV350 ใหม่เอี่ยมคันนี้ด้วยนะครับ ที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้ากรุงเทพ (สุขา 3) … 

Honda ADV 350 ต้องเรียกว่าเป็นการเอา ADV150 + Forza 350 + X-ADV 750 มาเขย่ารวมกัน และพัฒนาขึ้นมาโดยใช้เครื่องยนต์จาก Forza 350 สุดเหนียว มาประกอบกับรูปลักษณ์ และเพิ่มเติมด้วยระบบอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย พร้อมด้วยอุปกรณ์ “ใหม่” ที่บรรจงจับมารวมกันจนออกมาเป็น ADV 350 คันนี้

Forza 350 หล่ะต่างอะไรกันบ้างกับ ADV350

ชื่อรุ่นต่างจบมั้ย ? แหม่ .. สรุปมาเป็นตารางทางเทคนิคกันง่ายๆหล่ะกันครับ

ไล่ดูกันทีละนิดมีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

ที่โดดเด่นขึ้นมาเลยสำหรับผมคงจะเป็นเจ้า HSTC (Honda Selectable Torque Control) ที่เลือกการตอบสนองได้อย่างที่ต้องการ 3 ระดับด้วยกัน คือ ระดับ 2 – ระดับ 1 – ปิดการทำงาน ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในรถพิกัดนี้ที่มีการใส่ HSTC ที่สามารถเลือกค่าได้หล่ะครับ

[บนซ้าย] พักเท้าที่ปรับใหม่ ให้วางตำแหน่งเท้าถอยหลังได้มากขึ้น อยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับร่างกาย และพอดีกับการขับขี่ในท่ายืนแล้ว !!! ซึ่งบอกเลยว่าตรงนี้ผมชอบท่าทางในการขับขี่มากกว่ารุ่นพี่อย่าง X-ADV 750 ซะอีก 

[บนขวา] ซึ่งตำแหน่งตรงนี้ทำให้ผมสามารถวางเท้าในท่ายืนได้อย่างกระชับ โดยไม่ต้องใช้ร่างกายส่วนบนในการดึงรถเมื่อต้องการปรับท่าทางแล้วหล่ะครับ … สบายเลย

[ล่างซ้าย] ตำแหน่งของบังลม 4 ระดับ สามารถปรับได้ด้วยการ ดึงเจ้าปุ่มดำๆ ใต้บังลมออกทั้งสองด้าน แล้วยกขึ้นลงได้เลย สบายมาก

[ล่างขวา] โช้คหลังจาก Showa แบบมีซับแทงค์แยก ที่ให้การซึม..ซับในอย่างดีเลยหล่ะครับ (กับน้ำหนักตัวผมที่ 62 kg)

[บนซ้าย] ประกับไฟด้านซ้าย … เอ๊ะนี่มันคล้ายกับรุ่นพี่อย่าง X-ADV750 เลยนี่หน่า

[บนขวา] ประกับไฟขวาไม่มีอะไรมากครับ off-run และ start จบ

[ล่างซ้าย] ฝาปิดถังน้ำมันที่ผมชอบมาก เพราะเป็นการเปิดแบบ Soft touch เนียนๆ แถมฝาข้างในหมุนเปิด-ปิดง่ายมาก ไม่ต้องระวังว่าตกร่องผิดเลย

[ล่างขวา] ตำแหน่งพักเท้าคนซ้อนที่ เมื่อพับไปแล้วจะเรียบเนียนไปกับตัวรถ ไม่มีส่วนใดยื่นออกมาให้เกะกะรำคาญเล่น

ตำแหน่งของบังลมหน้าที่ปรับได้ 4 ระดับ ตามการใช้งานที่ต้องการ ต่ำสุดก็รับลม เพิ่มทัศนวิสัยได้ดี ส่วนตำแหน่งสูงสุดนี่ ขี่ยาวๆ น่าจะฟินเลยทีเดียวเชียว

ขี่บนทางเรียบหล่ะจะเป็นยังไงบ้าง ยางเดิมเป็นยางกึ่งนี่?

Honda ADV 350 ติดมากับยางมาตรฐานจาก Metzeler Karoo ที่แบ่งได้ง่ายๆว่า ทางหลัก 80 ดิน 20 หล่ะครับ คือเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปบนทางเรียบ … (ถ้าถนนบ้านเราเรียกว่าทางเรียบอะนะ) หรือจะเป็นการขับขี่ในแบบทางดิน ก็ยังตอบสนองได้ดี เอาตัวรอดได้สบายๆ 

ช่วงล่างของ ADV 350 มากับระยะยุบที่เยอะเลย (สำหรับรถ Scooter) คือช่วงหน้ายุบได้ถึง 125 mm และหลังยุบได้ถึง 130 mm ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้มีผลทำให้ ความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 155 mm ที่เพียงพอกับการ “รูด” ได้แบบสบายๆ

ตำแหน่งท่านั่งที่ลอยอยู่บนรถ บวกกับแฮนด์บาร์ กว้างสูง ทำให้การพลิกรถ เอียงเข้าโค้งต่อเนื่องทำได้แบบไม่ต้องเป็นภาระอะไร เลี้ยวได้ง่าย พลิกรถได้คล่อง ให้เสถียรภาพที่ดี และให้ความรู้สึกที่ดีมากในทุกการขับขี่

HSTC (Honda Selectable Torque Control) ที่ให้มา  3 ระดับนั้นเรียกว่า ทำงานได้ละเอียดมากเลยหล่ะครับ สำหรับรถ Scooter แบบนี้

จากในรูปเป็นการใช้ HSTC Level 1 ที่จะยอมให้มีการสไลด์ และปั่นล้อทิ้งได้นิดหน่อย เรียกว่าพร้อมขวางเลยจ้า ถ้าเจอพื้นลื่นๆ 

ซึ่งค่ามาตรฐานของตัวรถคือ HSTC Level 2 ที่จะทำงานละเอียดขึ้น และเหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากขึ้น ช่วยรักษาเสถียรภาพของรถ และเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้นอีกขั้น

แล้วถ้าเจอทางดินหล่ะ ดันเนินจะเป็นยังไง?

ก่อนอื่นต้องบอกว่าคำว่า “ทางดิน” คือทางดินนะครับ ไม่ใช่ทางเข้าป่า Enduro แบบที่หลายๆคนคุ้นกัน ถ้าแบบนั้น กลับรถกันเถอะเรา !!

สำหรับเส้นทางท่องเที่ยว “ทั่วไป”​ ที่อาจจะมีทางดินได้บ้างระหว่างทาง ADV 350 นั้น “สบาย” และพอเลยหล่ะครับ ช่วงล่างมาตรฐานจาก Showa นั้นให้การซับแรงที่ดี ตอบสนองได้ดั่งใจ ยางมาตรฐานแบบกึ่งรองรับกับทางดินแห้งได้อย่างดีเลยทีเดียว

“เพียงกดบน T บนประกับไฟ ก็ปรับ HSTC ได้ดั่งใจ” ทันทีที่เข้าส่วนดิน เพียงกดลดระดับ HSTC ลงมาเหลือ Level 1 ก็พร้อมปั่นล้อสนุกเลยหล่ะครับกับเส้นทางแบบนี้

พักเท้าที่ “คิดมาแล้ว” ให้การขับขี่ในท่ายืนของผมที่ลงตัวมาก ไม่รู้สึกว่าต้องใช้แรงอะไรยกตัวเองขึ้นมาจากรถเลย ยืนขึ้นได้ตรงๆ กระชับพอดีเป๊ะมาก แหม่ !!!

สรุป คุ้มมั้ยหล่ะกับค่าตัว?

Honda ADV 350 สำหรับผมต้องบอกว่า “คุ้มเลยหล่ะครับ”​ เพราะสิ่งที่ได้คือ

• กันสะเทือนหน้า Showa Upside down ที่ให้ระยะยุบถึง 125 mm
• กันสะเทือนหลัง Showa Sub-tank กับระยะยุบ 130 mm
• บังลมหน้าปรับระดับได้ 4 ระดับ ไม่ต้องไปเปลี่ยนหล่ะ
• Dual ABS แยกการทำงานหน้า-หลัง
• ยางเดิม เหลือเฟือ ใช้ไปได้เลยสบายๆ
• HSTC ที่ปรับระดับได้ 3 ระดับ (2-1-ปิด) ที่ช่วยพาให้ลงดินได้สนุกขึ้น
• กุญแจ Keyless … อันนี้ชอบส่วนตัว เพราะผมลืมกุญแจบ่อยมาก
• ESS (Emergency Stop Signal) ที่จะกระพริบไฟผ่าหมากให้ เมื่อมีการเบรคกระทันหัน (บนความเร็วมากกว่า 50km/hr) เพื่อเตือนคันหลัง และเพิ่มความระมัดระวังให้ข้างหลังไปด้วย
• ที่สำคัญคือ “ใส่หมวกเต็มใบได้ 2 ใบ” ด้วยนะ
• การ์ดแฮนด์แบบอ่อน ที่ช่วยกันเศษดิน และลมได้ระดับนึง

Honda ADV350 กับราคาเปิดตัวแบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย คือ 

• Standard – 181,900 บาท
• Roadsync – 183,900 บาท
• Touring Master Edition เพิ่มเติมแร็ค และชุดกล่อง – 197,500 บาท
• Urban Racer Edition กับท่อ Full System จาก Yoshimura (มีมอก. ผ่านมาตรฐานเสียง!) – 199,500 บาท

สุดท้ายนี้คงต้องบอกว่า … จะผลิตทันเหรอครับ รอกันอีกนานเลยนะเนี่ยท่าทาง … ผมด้วย