หากพูดถึงรถในรูปแบบ Big Scooter หรือประเภทสายพานไม่มีเกียร์ เพียงแค่บิดคันเร่งก็พร้อมทะยานออกไปได้ทันทีแล้วหล่ะก็ หลายๆคนต้องนึกถึง TMax จาก Yamaha ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ของรถในรูปแบบนี้เลยทีเดียว … เพราะด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นกับเครื่องยนต์แบบ 2 สูบขนาดความจุ 530 cc ที่ให้การตอบสนองที่จัดจ้าน บนการควบคุมที่เป็นมิตร และยังคงอารมณ์ความสนุกไว้ได้อย่างครบถ้วน และถ้าใครได้มีโอกาสเห็นภาพโฆษณากิจกรรมต่างๆจาก Yamaha แล้วหล่ะก็ จะต้องเห็นภาพของ TMAX สีดำคันนึง กับลีลาการ “กางเข่า” ที่เรียกได้ว่าทำให้หลายๆคนต้องแปลกใจกันเลยทีเดียว ว่า Big Scooter เนี่ยนะ ขับขี่กันได้แบบนี้เลยเหรอ
และในครั้งนี้เราก็ได้มาพบกับการถอดหมวกของ “พี่เข้ม” สิทธิชัย สืบศรี ผู้ที่จัดได้ว่าเป็น “หนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรง” ในการรวบรวมกลุ่มสมาชิกเพื่อนๆ TMAX ให้มาลงขับขี่กันในสนามทางเรียบ จนเป็นภาพของรถ Big Scooter ร่วมสิบกว่าคัน ลงมาวาดลวดลายกันบนสนาม ซึ่งทำให้หลายๆคนแปลกใจ แต่พี่เข้มก็ได้ให้บอกกับเราว่า
“คือเริ่มต้นเลยเนี่ย ก็ขี่ Scooter อยู่แล้วเอาไว้รับส่งลูกไปโรงเรียนเนี่ยแหล่ะครับ (พร้อมกับหัวเราะเบาๆ) แล้วเราก็ขยับมาเรื่อยๆ จาก 150 cc ไป 300 cc แล้วก็มาเป็น TMAX 530 cc รุ่นปี 2015 จากนั้นก็ได้มีโอกาสมาขับขี่ในสนามกับทางทีมงานครูฝึกของทาง Yamaha ก็เลยได้ลองเอา TMAX ปี 2015 มาฝึกขับขี่เนี่ยแหล่ะครับ”
ปั๊มเบรคล่างจาก Brembo GP4RX พร้อมสายถักเต็มระบบ ที่ให้สมรรถนะในการหยุดรถอย่าง “เต็มประสิทธิภาพ” เชื่อมเข้ากับระบบ ABS จากตัวรถที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้อีกขั้น พร้อมร่องรอยที่อกล่าง บ่งบอกถึงการ “แบนรถ” จนสุดขอบหน้ายาง ถึงลิมิตของตัวรถให้ได้เห็นกันชัดๆ
โดยปกติแล้วรถที่เรามักเห็นในการขับขี่บนสนามทางเรียบ มักจะเป็นรถประเภทสปอร์ต หรือรถในแนว Naked มากกว่า ที่จะเป็นรถในแนว Big Scooter ซึ่งมักจะออกไปในรูปลักษณ์ของรถใช้งานบนท้องถนน ไม่ใช่รถที่นำมาเพื่อการแข่งขันมากนัก (แต่ในยุโรปมีการจัดแข่งกันอย่างจริงจังเลยทีเดียว) ซึ่งพี่เข้มก็ได้อธิบายกับเราไว้อย่างน่าสนใจ
“จริงอยู่ที่ TMAX เป็นรถสำหรับขับขี่ใช้งานทั่วไป แต่ก็ต้องบอกกันตรงๆนะครับว่า สมรรถนะที่มีของ TMAX ค่อนข้างจะไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่บนท้องถนนซักเท่าไหร่นัก อีกอย่างคือ การขับขี่ในสนามเป็นการให้เพื่อนๆทุกคนได้มาฝึกฝน เพิ่มทักษะในการใช้รถของตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือเหมือนพวกเราได้มา Meeting กัน ได้มาเจอเพื่อนๆ ได้พบปะพูดคุยกันซะมากกว่า”
“แต่หลักๆแล้ว TMAX DX คันนี้ ก็เอาไว้รับส่งลูกไปโรงเรียนเนี่ยแหล่ะครับ (ฮ่าๆๆ)”
ชุดท่อไอเสียจาก “Over Racing full titanium” ที่ให้สุ้มเสียงที่นุ่ม แต่รีดสมรรถนะได้อย่างหมดจดจากเครื่องยนต์ขนาด 530 cc
เดี๋ยวนะครับ ย้อนกลับไปซักเล็กน้อยเมื่อกี้บอกว่า TMAX ปี 2015 แต่ตัวนี้คือ TMAX DX 2018 หรือนี่หมายความว่า พี่เข้มซื้อ TMAX ใหม่เลยอีกคันนึง?
“ใช่ครับ ก็ขาย TMAX มาซื้อ TMAX เนี่ยแหล่ะครับ คือต้องบอกว่า TMAX DX เนี่ยขับขี่ง่ายขึ้น แล้วก็มีระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยพอสมควร มี ABS และ Traction Control แล้วก็เลี้ยวง่ายขึ้นกว่าตัวเก่า โดยรวมแล้วตัวรถ เป็นมิตร และก็น่าจะปลอดภัยขึ้นครับ เลยตัดสินใจขายคันเก่ามาออกคันใหม่เนี่ยแหล่ะครับ”
ลวดลายบนรถก็บ่งบอกถึงความชื่นชอบในการขับขี่ของ Johann Zarco ผู้ขับขี่อยู่ในทีม Tech 3 Yamaha ปี 2018 รวมไปถึง หมวกกันน็อค และชุดที่สะท้อนลวดลายของ Zarco ออกมาอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
ปั๊มล่างขนาดใหญ่ มาพร้อมปั๊มบนที่เข้ากันกับ Brembo 19 RCS ที่เราเรียกกันว่า “อิตาลี” ที่เชื่อมต่อเข้า ABS ของตัวรถ
ปั๊มบนเบรคหลังมากับ Brembo 16 RCS “อิตาลี” เช่นเดียวกัน
“พอได้เริ่มขับขี่ในสนามนานๆเข้า เราก็เริ่มรู้สึกว่า เราต้องการเพิ่มความปลอดภัย ต้องการร่นระยะเบรคให้น้อยลง และใช้ระยะทางในการเร่งต่างๆ ได้มากขึ้น หลังจากนั้นก็ทำการ … ป้ายยา …ให้กับตัวเองเนี่ยแหล่ะครับ ไปๆมาๆ ก็มาเป็น ชุดเบรคทั้งระบบที่ทำเอางงไปเหมือนกันว่า รถราคา ห้าแสนกว่า แต่ทำแค่เบรคไปก็แสนห้า แล้ว ฮ่าๆๆ” – พี่เข้มกล่าวกับเราอย่างอารมณ์ดี
กระจกมองข้าง เลือกใช้กระจกจาก Rizoma ที่ให้รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวเข้ากับสรีระโดยรวมของตัวรถได้เป็นอย่างดี
พร้อมด้วย GPS ติดรถสำหรับการเดินทาง ที่บ่งบอกว่า รถคันนี้ “พร้อมเที่ยว” ได้เสมอ
ชิวหน้าทรงต่ำ ที่มีการจัดการลมได้อย่างดี รวมไปถึงแร็คท้าย และกระเป๋าติดรถที่ครบครัน
ล่าสุดเห็นว่าพี่เข้มมีลงแข่งขันด้วย ไม่ทราบว่าลงไปแข่งรุ่นอะไร แล้วเป็นยังไงบ้างครับกับการแข่งขันที่ผ่านมา
“ก็จริงๆ ไม่ได้เรียกว่าแข่งหรอกครับ อย่างที่พี่บอกไว้ คือเราไป meeting ไปนั่งคุยกันซะมากกว่า การแข่งขันก็เป็นรายการ Yamaha Championship ที่ผมมองว่าจริงๆแล้วคือให้ลูกค้า ได้มาขี่รถเล่น เพิ่มทักษะอย่างถูกวิธี จากบรรดานักแข่งต่างๆที่คอยมาแนะนำการขับขี่เราแบบ โค้งต่อโค้ง ซะมากกว่า”
“คือเราก็อยากรวมกลุ่มของ TMAX ให้ได้มารู้จักกันมากขึ้น โดยไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าจะเป็นรถปีไหนจะรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ ได้มาพบปะพูดคุย ได้รู้จักกัน ออกไปเดินทาง มาฝึกขับขี่กันในสนามทางเรียบ เพราะต้องบอกตรงๆว่า บนสนามปลอดภัยกว่าบนท้องถนนเยอะกว่า อีกอย่างคือรถคุยกันไม่ได้หรอก ถ้าคนไม่มานั่งคุยกันเอง” – พี่เข้มกล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณ 40 Garage ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการถ่ายทำ
40 Garage ร้านคุณภาพสำหรับมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนๆ
facebook : https://www.facebook.com/40garage
Comments