Triumph Tiger 1200 “All-New” กับจุดเด่นด้วยการลดน้ำหนักให้เบาขึ้น ทรงพลังมากขึ้น ระบบครบถ้วน พร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้นจากเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ พร้อมเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ของ Triumph

ด้วยการปล่อย Tiger 1200 Explorer เป็น 2 รุ่นหลัก คือ GT และ Rally

 

Tiger 1200 GT

ซึ่งพัฒนาและปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่แบบผจญภัยบนท้องถนนโดยเฉพาะ ด้วยล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว 

• Tiger 1200 GT – ความจุถัง 20 ลิตร
• Tiger 1200 GT Pro – ความจุถัง 20 ลิตร
• Tiger 1200 GT Explorer – ความจุถัง 30 ลิตร

Tiger 1200 Rally

ซึ่งพัฒนาและปรับแต่งมาให้เหมาะกับการผจญภัยในทุกสภาพถนน ด้วยล้อซี่ลวดแบบ tubeless ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว 

• Tiger 1200 Rally Pro – ความจุถัง 20 ลิตร
• Tiger 1200 Rally Explorer – ความจุถัง 30 ลิตร

 

การปรับโฉมครั้งใหญ่

Tiger 1200 Rally Pro

น้ำหนักเบาลงอย่างเห็นได้ชัด

• เบากว่ารุ่นก่อนหน้า 25 kg
• เบากว่าคู่แข่งรุ่นที่ใกล้เคียงกันที่ใช้ระบบเพลาขับ มากถึง 17 kg. (อ้างอิงจากสเปคของมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เทียบเคียงได้)

Tiger 1200 GT Pro

ขนาดล้อใหม่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

• ล้อซี่ลวดแบบ tubeless ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว เพื่อสมรรถนะสูงสุดสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด ( Rally Pro & Rally Explorer)
• ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ล้อหน้าขนาด 19 นิ้วและ ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ให้ขีดความสามารถในการขับขี่บนท้องถนน (GT, GT Pro, GT Explorer)

ความจุถังน้ำมันแบบใหม่ 

• ถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร (GT, GT Pro, Rally Pro)
• ถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร (GT Explorer, Rally Explorer)

อุปกรณ์ที่เหนือชั้นกว่า 

• เฟรมน้ำหนักเบาแบบใหม่ พร้อมซับเฟรมหลังและชุดพักเท้าอะลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู 
• สวิงอาร์มแบบ ‘tri-link’ แบบใหม่ที่เบาขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
• เบรก Brembo Stylema® ระบบเบรก ABS ขณะเข้าโค้ง พร้อมระบบ IMU 
• ระบบกันสะเทือนแบบ semi-active ที่ล้ำสมัยของ Showa เพื่อสมรรถนะสูงสุดของการขับขี่ ทั้งการขับขี่บนถนนและการขับขี่แบบออฟโรด 

อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี

Tiger 1200 Rally Explorer

• เทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar System) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยพัฒนาร่วมกับ Continental (GT Explorer & Rally Explorer)
• ระบบกันสะเทือนแบบ semi-active  ของ Showa ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างคล่องตัว
• แผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
• ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง ด้วยระบบ IMU
• โหมดการขับขี่สูงสุดถึง 6 โหมด
• Keyless System ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งการสตาร์ทรถ ล็อคพวงมาลัย และเปิดฝาถังน้ำมัน
• ไฟ LED แบบใหม่พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights) (ไม่มีในรุ่น GT)
• ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist) (ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ยกเว้น GT)
• ปลอกแฮนด์และเบาะนั่งแบบปรับอุณหภูมิ (GT Explorer & Rally Explorer)
• ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System)(GT Explorer & Rally Explorer)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (ไม่มีในรุ่น GT)